MOTOR EXPO 2018 รถต้นแบบอลัง

ต้องบอกว่างานโชว์ใหญ่ๆ อย่างงานมอเตอร์โชว์ต้นปี และงานมอเตอร์เอ็กซ์โปปลายปี มักจะมีผู้สนใจเกี่ยวกับรถยนต์ต้นแบบเป็นจำนวนมาก ถึงแม้มันจะหาซื้อไม่ได้ก็ตาม แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้ ทำให้หลายคนได้สนทนาแสดงความคิดเห็นกันได้อย่างกว้างขวาง

          เรามาเริ่มต้นกันที่ MERCEDES-BENZ CONCEPT EQA ต้นแบบที่จะแสดงให้เห็นถึงกลยุทธ์ ELECTRIC INTELLIGENCE ซึ่งจะถูกนำมาใช้ในรถยนต์กลุ่มคอมแพคท์ รถยนต์คันนี้ใช้เทคโนโลยีไฟส่องสว่างด้วยเลเซอร์ไฟเบอร์ โดยที่ตัวกลางซึ่งถูกกระตุ้นด้วยแสงเลเซอร์ได้ถูกฝังไว้ในแกนกลางของเคเบิลใยแก้ว มีไฟรูปทรงขดเกลียวเล็กๆ ชวนให้นึกถึงขดลวดทองแดงในมอเตอร์ไฟฟ้า และภาพการเคลื่อนไหวที่ให้มโนภาพถึงการเคลื่อนที่ของกระแสไฟฟ้า มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัวที่ทำงานร่วมกัน ให้กำลังขับเคลื่อนมากขึ้นกว่า 200 กิโลวัตต์ ด้วยผลของระบบแบทเตอรีแบบเพิ่มขยายส่วนประกอบได้ ตลอดจนระบบขับเคลื่อน 4 ล้อตลอดเวลา โหมดการขับขี่ 2 รูปแบบ คือ SPORT และ SPORT PLUS ปรับเปลี่ยนแรงบิดที่ส่งไปยังล้อหน้า และล้อหลังในอัตราที่แตกต่างกัน จึงเลือกบุคลิกการขับขี่ในแต่ละแบบได้ แผงสีดำบริเวณตอนหน้าของรถทำหน้าที่เป็นกระจังหน้าแบบเสมือน และจะเปลี่ยนรูปลักษณ์ไปตามโหมดการขับขี่ที่ใช้ โดยในโหมด SPORT กระจังจะแสดงภาพปีกติดเปลวเพลิงในแนวนอน ส่วนในโหมด SPORT PLUS ภาพที่แสดงจะเป็นเส้นขีดแนวตั้งรูปกระจังหน้าในแบบแพนอเมริกานา คอนเซพท์ อีคิวเอ สามารถวิ่งได้เป็นระยะทางประมาณ 400 กม. ซึ่งแบทเตอรีลิเธียม-ไอออนประสิทธิภาพสูงนี้ เป็นแบบเซลล์กระเป๋า (POUCH CELL) ที่ผลิตขึ้นโดยบริษัทย่อยของ ไดมเลร์ คือ ดอยท์ช แอคคิวโมทีฟ ซึ่งผลจากการออกแบบในแบบโมดูลาร์ ทำให้ระบบแบทตอรีชนิดนี้มีความจุรวมเฉพาะรุ่นมากกว่า 60 KWH คอนเซพท์ อีคิวเอ สามารถชาร์จไฟฟ้าผ่านการเหนี่ยวนําแม่เหล็กไฟฟ้า (INDUCTION) หรือวอลล์บอกซ์ และยังรองรับการชาร์จเร็ว (RAPID CHARGING) อีกด้วย ในส่วนของวิสัยทัศน์ด้านการใช้บริการสถานีประจุไฟฟ้าสาธารณะจะเป็นการมุ่งสู่ “การชาร์จที่ราบรื่นไร้ปัญหาติดขัด” โดยบริการที่ใช้ระบบ MERCEDES ME นี้จะทำให้การชาร์จ และการจ่ายค่าบริการในสถานีประจุไฟฟ้าแห่งต่างๆ เป็นเรื่องง่าย

ตามมาด้วย MAZDA VISION COUPE รถคูเปต้นแบบที่สานต่อ “ความสง่างามสไตล์ มาซดา” ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 1960 ด้วยรถ 2 ประตู คูเป คันแรกของ มาซดา คือ อาร์ 360 ตามมาด้วย ลูศ เครื่องยนต์โรตารี ในปี 1966 วิชัน คูเป เป็นโมเดลสำหรับยุคถัดไปของ มาซดา ที่แสดงให้เห็นถึง “ความสง่างามรูปแบบใหม่” ที่พัฒนาขึ้นโดยนำเอาประวัติศาสตร์การออกแบบของ มาซดา ในแบบคูเป ที่ได้ประยุกต์คอนเซพท์ของ “MA” (หรือคำว่า พื้นที่โล่ง) ฟีเจอร์ที่มีความโดดเด่นของสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของญี่ปุ่น เพื่อที่จะสร้างการตกแต่งภายในที่เชื่อมต่อสื่อสารกับโลกภายนอก ด้วยโครงสร้างพื้นฐาน คือ รถเก๋ง 4 ประตู ทำให้ วิชัน คูเป ต่างไปจาก มาซดา อาร์เอกซ์-วิชัน รถยนต์ต้นแบบที่ออกมาในปี 2015 ทั้งคู่มีรูปทรงและหน้าตาคล้ายกัน เส้นสายที่เล่นกับแสงและเงา เพื่อสะท้อนความสวยงามออกมา

ส่วนของรถ MG E-MOTION CONCEPT รถต้นแบบที่ผสมผสานทั้งนวัตกรรมด้านการออกแบบ เทคโนโลยีที่ทันสมัยของ SAIC และการเชื่อมต่อทางอินเตอร์เนทเข้าไว้ด้วยกัน จากการให้ความสำคัญกับการออกแบบที่ “เร้าอารมณ์” ทำให้มีมิติตัวถังที่โฉบเฉี่ยวและสง่างาม โดยตำแหน่งด้านหลังเสาหลังคาหน้าไปจนถึงท้ายรถมีความลาดเอียงและปราดเปรียวแบบรถคลาสสิค 2 ประตู สไตล์ SPORTS BACK ที่สะท้อนเอกลักษณ์ของ เอมจี การออกแบบด้านหน้าโดดเด่นพร้อมไฟส่องสว่างแบบ LED ซึ่งได้แรงบันดาลใจมาจากแสงสะท้อนของลอนดอนอาย และไฟท้ายแนวตั้ง มาพร้อม BLACK TECHNOLOGY ที่จะปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยพัฒนาบนโครงสร้างพแลทฟอร์มโมดูลาร์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ของ SAIC ที่มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาไม่ถึง 4 วินาที และมีระยะทางขับเคลื่อนได้ไกลกว่า 500 กม./การชาร์จ 1 ครั้ง รถต้นแบบรุ่นนี้จึงเป็นรถสปอร์ทในอุดมคติสำหรับการขับขี่ที่เร้าใจและการใช้พลังงานทางเลือกปราศจากมลพิษ ขณะที่การเชื่อมต่ออินเตอร์เนทอัจฉริยะยังช่วยให้การเข้าสู่โลกออนไลน์ทำได้ง่ายดายเพียงปลายนิ้ว

อย่างไรก็ตาม MINI JOHN COOPER WORKS GP CONCEPT หรือ JCW GP CONCEPT มีความกว้างของตัวถังที่มากกว่า MINI HATCH ในรุ่นมาตรฐานอย่างเห็นได้ชัด ใช้อุปกรณ์เสริมแอโร่ไดนามิกชิ้นโตรอบคัน และใช้วัสดุน้ำหนักเบา เช่น CARBON-FIBRE เพื่อลดน้ำหนักของตัวรถ และเพื่อรักษาการกระจายน้ำหนักให้มีความสมดุล ด้านหน้าของตัวรถ มีช่องดักอากาศขนาดใหญ่ และมีสปอยเลอร์หน้าที่แนบเกือบติดกับพื้นถนน เน้นการขับขี่ในสนามแข่งโดยเฉพาะตัวรถใช้สี BLACK JACK ANTHRACITE ซึ่งมีความเข้ม ดุดัน และตัดด้วยสีแดง CURBSIDE RED ที่เป็นเนื้อสีด้าน มีการออกแบบไฟหน้าใหม่ ให้มีวงแหวนสีแดงอยู่ภายใน กระจังหน้าขนาดใหญ่ทรงหกเหลี่ยมที่เป็นเอกลักษณ์ของ MINI ตัดด้วยสีส้ม HIGHSPEED ORANGE มีสกู้ปดักลมที่ฝากระโปรง และหลังคาของตัวรถ เพื่อเสริมความดุดัน ด้านข้างของตัวรถ ได้รับการออกแบบใหม่หลายส่วน ทั้งกระจกมองข้างทรงใหม่ มือจับประตู และเสริมด้วยช่องดักลมชิ้นโต และสเกิร์ตข้างที่ทำมาจาก CARBON-FIBRE ส่วนบริเวณหลังซุ้มล้อหน้า มีตัวเลข 0059 กำกับไว้ ซึ่งมีที่มาจากปี 1959 ที่เป็นปีกำเนิดรถยนต์มินิ ล้ออัลลอยด์ขนาด 19 นิ้ว ตัดด้วยสีที่เข้ากับตัวรถ พร้อมสัญลักษณ์ GP อย่างโดดเด่น ด้านท้าย ใช้ไฟท้าย LED ลวดลายธงชาติสหราชอาณาจักรหรือ UNION JACK เพิ่มความดุด้วยสปอยเลอร์ขนาดใหญ่มโหฬารในรูปทรงที่สอดคล้องไปกับลวดลายที่พาดมาจากด้านข้างของตัวรถ ภายใน ติดตั้งเบาะรถแข่งแบบ BUCKET SEAT คู่หน้า พร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 ตำแหน่ง มีคอนโซลแบบเรียบง่าย แต่ใช้ลวดลายสปอร์ตตามสไตล์รถแข่ง สามารถชิฟต์เกียร์ได้จากแป้นบนพวงมาลัย และมีหน้าจอ HEAD-UP DISPLAY สำหรับแสดงข้อมูลต่างๆ ขณะขับขี่ และบริเวณแดชบอร์ดหน้าฝั่งผู้โดยสาร จะมีตัวเลข GP0059

ถ้าจะว่าถึงรถพอร์ช ไม่มีใครไม่รู้จัก โดยงานนี้มี PORSCHE TAYCAN พอร์ช เปลี่ยนชื่อรถพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบคันแรกของค่าย จาก มิชชัน อี มาเป็น ไทย์คาน ที่สะท้อนให้เห็นภาพของม้าศึกที่เป็นตราสัญลักษณ์ของ PORSCHE รถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้ารุ่นใหม่ ไทย์คาน นับเป็นก้าวสำคัญสู่อนาคตของ PORSCHE แล้วชื่อนี้ยังมีนัยสำคัญถึงการประกาศวาระแห่งการเฉลิมฉลอง ในฐานะส่วนหนึ่งของกิจกรรม “70 YEARS OF SPORT CARS” มอเตอร์ขับเคลื่อนประสิทธิภาพสูง 2 ตัวแบบ PERMANENTLY EXCITED SYNCHRONOUS MOTORS (PSM) เมื่อทำงานร่วมกันสามารถผลิตกำลังสูงสุดได้มากกว่า 600 แรงม้า (440 กิโลวัตต์) ส่งผลให้รถสปอร์ทพลังงานไฟฟ้าคันนี้มีอัตราเร่งจาก 0-100 กม./ชม. ภายในเวลาต่ำกว่า 3.5 วินาที และ 200 กม./ชม. ภายในเพียง 12 วินาที ความเร็วสูงสุดถึง 250 กม./ชม. รถยนต์คันนี้สามารถเดินทางไกลมากกว่า 500 กม. ตามมาตรฐานของ NEDC

แต่อย่างไรก็ตาม ในงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” นี้ก็ได้รวมค่ายรถยนต์ รถจักรยานยนต์ อัดแน่นเต็มพื้นที่ อวดโฉมยานยนต์ใหม่ พร้อมโปรโมชั่นเด็ดส่งท้ายปี หวังดันยอดขายรถรวมทะลุ 1 ล้านคัน คุณขวัญชัย ปภัสร์พงษ์ ประธานจัดงาน “มหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 35” เผยว่า “ปีนี้จัดงานภายใต้แนวคิด “ขับสนุก! ก่อนยุคไร้คนขับ – Enjoy Driving! Before Driverless Era” โดยขณะนี้เตรียมงานพร้อม 100 เปอร์เซนต์แล้ว มีค่ายรถยนต์เข้าร่วม 36 ผู้ผลิต จาก 9 ประเทศ และรถจักรยานยนต์ 23 ผู้ผลิต จาก 7 ประเทศ พร้อมจัดแสดงรถต้นแบบ รวมถึงเปิดตัวรถรุ่นใหม่ภายในงานมากมาย รถยนต์ 36 ผู้ผลิต ได้แก่ ASTON MARTIN, AUDI, BENTLEY, BMW, CHEVROLET, FOMM, FORD, HONDA, HYUNDAI, ISUZU, JAGUAR, KIA, LAMBORGHINI, LAND ROVER, LEXUS, MASERATI, MAZDA, McLAREN, MERCEDES-BENZ, MG, MINI, MITSUBISHI, NISSAN, PORSCHE, ROLLS-ROYCE, SUBARU, SUZUKI, TATA, THAI RUNG, TOYOTA, VOLVO รวมถึงชุดแต่งและรถยนต์จากผู้นำเข้าอิสระ ได้แก่ BMW M PERFORMANCE, CARLSSON, MOKE, M’Z SPEED และ SWIFT รถจักรยานยนต์ 23 ผู้ผลิต ได้แก่ APRILIA, BENELLI, BMW, CF MOTO, DUCATI, GPX, HANWAY, HARLEY-DAVIDSON, HONDA BIGBIKE, KAWASAKI, LIFAN, MOTO GUZZI, MV AGUSTA, PIAGGIO, ROYAL ALLOY, ROYAL ENFIELD, RYUKA, SUZUKI, TRIUMPH, VESPA, YAMAHA, ZONTES และอีกหนึ่งรายจะเปิดตัวในงาน สำหรับกิจกรรมคืนกำไรให้ผู้ชมทั้ง ซื้อรถ…ชิงรถ / ซื้อบัตร…ชิงรถ / ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์ / ร่วมลุ้นแบบคนรุ่นใหม่ / ซื้อสินค้า ชิงรางวัล และ สแกนจ่าย…ลุ้นโชค ยิ่งสแกนจ่ายมากยิ่งมีสิทธิ์มาก อาทิ “ซื้อรถ…ชิงรถ” เมื่อจองหรือซื้อรถยนต์ใหม่ภายในงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ VOLVO รุ่น V40 T4 DYNAMIC EDITION มูลค่า 1,690,000 บาท จำนวน 1 รางวัล ตามด้วย“ซื้อบัตร…ชิงรถ” ผู้ที่ซื้อบัตรชมงาน มีสิทธิ์ชิงรถยนต์ ALL NEW MG3 HATCHBACK รุ่น D มูลค่า 554,000 บาท จำนวน 1 รางวัล

ส่วน“ซื้อมอเตอร์ไซค์…ชิงบิกไบค์” เมื่อจองหรือซื้อรถจักรยานยนต์ใหม่ในงานมีสิทธิ์ชิงรางวัลรถจักรยานยนต์ YAMAHA รุ่น YZF-R6 มูลค่า 549,000 บาท จำนวน 1 รางวัล กับการ“ร่วมลุ้นแบบคนรุ่นใหม่” กด *144 แล้วโทรออก (ค่าบริการครั้งละ 6 บาท ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม เฉพาะเครือข่ายของ TRUE MOVE และ TRUE MOVE H) ลุ้นรถยนต์ MITSUBISHI MIRAGE GLX M/T มูลค่า 467,000 บาท จำนวน 1 รางวัล และ“ซื้อสินค้า ชิงรางวัล” เมื่อซื้อสินค้าภายในงานจากร้านเดียวกันทุก 1,000 บาท จะได้รับคูปองชิงโชค 1 ใบ เพื่อลุ้นรางวัล รวมมูลค่ากว่า 300,000 บาท และการ“สแกนจ่าย…ลุ้นโชค ยิ่งสแกนจ่ายมากยิ่งมีสิทธิ์มาก” ซื้อสินค้าในงานตามมูลค่าที่กำหนด ชำระค่าสินค้าโดยสแกน QR CODE ผ่านระบบ Mobile Banking เท่านั้น และนำ E-slip มาลงทะเบียนผ่าน Motor Expo Application กรอกข้อมูลให้ครบถ้วน ลุ้นรับรางวัล 2 ต่อ ต่อที่ 1 รับฟรีบัตรชมภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ซีเนเพลกซ์ 1 ใบ มูลค่าใบละ 270 บาท แจกวันละ 40 รางวัล รวมมูลค่า 129,600 บาท ต่อที่ 2 ชิงรางวัล รถจักรยานยนต์ GPX รุ่น  DEMON 150 GR (LUXURY) มูลค่า 63,800 บาท จำนวน 1 รางวัล และรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า UDA รุ่น WINK (M400B) มูลค่า 18,900 บาท จำนวน 3 รางวัล”

อนึ่ง ยังมีกิจกรรมที่น่าสนใจอื่นๆ อาทิ “SKILL DRIVING EXPERIENCE JUNIOR” อบรมขับขี่ปลอดภัย สำหรับเด็กอายุ 4-8 ปี เพื่อปลูกฝังการใช้รถใช้ถนนตามกฎจราจร พร้อมชิงรางวัล “คาร์ซีท” อุปกรณ์เพิ่มความปลอดภัยให้บุตรหลานขณะโดยสารรถยนต์ มูลค่ากว่า 20,000 บาท ฟรี ! ขณะที่ผู้สนใจซื้อรถในงานสามารถร่วมกิจกรรม “สนุกขับกับรถที่คุณเลือก” (AUTONOMOUS TEST DRIVE AREA) เพื่อทดลองระบบช่วยเหลือ เช่น ระบบถอยจอดอัตโนมัติ ระบบเบรคอัตโนมัติ ฯลฯ ที่ติดมากับรถ ภายใต้การแนะนำ และดูแลของผู้เชี่ยวชาญจากผู้แทนจำหน่าย และจากโครงการ “ขับเป็น… ขับปลอดภัย กับ สื่อสากล” (SKILL DRIVING EXPERIENCE) โรงเรียนพัฒนาทักษะการขับขี่รถขับเคลื่อนสี่ล้อ หรือ SPIRIT OF THE 4×4 DRIVING SCHOOL จัดพื้นที่ต้อนรับผู้ชื่นชอบรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ฯลฯ ยังมีการจัดแสดงยานพาหนะทางน้ำ อาทิ เรือขนาดเล็ก สปีดโบท เรือยอชท์ พร้อมพื้นที่ให้ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมยานยนต์พบปะกัน โดยมีผู้ผลิตชุดแต่ง และอะไหล่จากประเทศจีน และอินโดนีเซีย มาเปิดเวทีเจรจาการค้าร่วมกันด้วย

 

Related posts

Visit Us On FacebookVisit Us On TwitterVisit Us On YoutubeCheck Our Feed